เรื่องราวการผจญภัย บนโลกที่เวทมนต์คือสิ่งที่ถูกลืม การเดินทางเพื่อค้นหาวันที่หายไป วันที่ผู้คนมากมายออกเดินทางอีกครั้ง วันที่ผู้คนเชื่อว่าจะเกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้น
นิยายออกสัปดาห์ละตอน จะพยายามลงให้ทันวันจันทร์ในทุกสัปดาห์
Lost Day จะถูกเขียนในรูปแบบของนิยาย
ส่วน บันทึกการเดินทาง จะเขียนในรูปแบบของบันทึกที่เล่าสิ่งต่างๆในโลกของLost Day เป็นลักษณะของแนวความคิด ทฤษฎี ข้อมูล

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บันทึกการเดินทาง 30 พ.ย.3428

บันทึการเดินทาง

30 พฤศจิกายน เอิร์ธศักราชที่ 3428

ผมติดอยู่ที่นี่มาสี่ปีแล้ว ผมไม่รู้เหมือนกันผมมาที่นี่ได้ยังไง  ผมจำได้แค่ว่าผมกำลังป่วยด้วยHIV ระยะสุดท้าย ตอนนั้นตาผมแทบจะบอดสนิทแล้ว หมอบอกว่าเกิดจากโรคแทรกซ้อน ผมรู้ว่าผมกำลังจะตาย คืนนั้นผมฝันว่าตัวเองกำลังจมดิ่งไปเรื่อยๆมองไปทางไหนก็มืดสนิท ตอนนั้นผมคิดว่าผมคงกำลังตกนรก อยู่ๆมีมือของใครซักคนดึงผมไว้ แล้วเค้าไปยืนรอที่ประตู เค้ากวักมือเรียก ผมเลยเดินตาม ผมรู้สึกตัวอีกทีบนบ่อโคลน กลางทะเลทรายไม่มีเสื้อผ้าใส่  บังเอิญมีคนผ่านมาผมเลยโบกมือเรียก จากวันนั้นผมก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่แบบงงๆ

คนที่นี่ใช้ภาษาไรกันไม่รู้ ผมเริ่มเข้าใจภาษาของที่นี่ก้ปาเข้าปีที่สองแล้ว พวกเค้ามีตัวอักษรที่เทียบกับภาษาไทยได้ ทำให้ง่ายที่ผมจะเรียนตัวอักษรของคนที่นี่  แต่แปลกใจที่สุดคือภาษาอังกฤตเป็นความรู้ที่คนต้องการมาก ผมสมัครเข้าทำงานกับศาสนจักรด้วยการแค่ท่อง A-Zให้กรรมการฟังเท่านั้นเอง กลุ่มพ่อค้าที่ช่วยผมไว้เค้าเข้าใจผิดมาตลอดว่าผมเป็นพ่อค้าที่โดนปล้นแล้วถูกโยนลงบ่อโคลน  ตอนนั้นผมคุยกะเค้าไม่รู้เรื่อง แถมยังเหมาว่าผมคงมาจากต่างเมืองอีกเลยพูดกะเค้าไม่เข้าใจ  ตอนนี้ผมยังติดต่อกับพ่อค้ากลุ่มนี้อยู่เรื่อยๆ เพราะพวกนี้ชอบเอาของโบราณที่มีคำภาษาอังกฤตมาให้ผมอ่าน ผมก็อ่านผิดๆถูกๆไปตามประสาแหละ

Phrayai นี่แหละชื่อเมืองหลวง อ่านแล้วมันแปลกๆไงไม่รู้  ขออ่านแบบออกเสียงง่ายๆหน่อยแล้วกันว่าเมืองปลาใหญ่ ที่นี่เหมือนเมืองลอยอยู่กลางน้ำ จะไปไหนมาไหนแบบด่วนๆหน่อยต้องไปซื้อดอกไม้ชนิดนึง ดอกใหญ่มากๆคล้ายดอกหญ้าที่โดนลมแล้วมันจะปลิว ดอกไม้นี่ก็เหมือนกัน เวลาจะใช้ก็ฉีดน้ำใส่ อาศัยลมนิดหน่อย แล้วก็บินกันเลย สนุกปนหวาดเสียว ตอนเย็นจะมีพวกเด็กวัยรุ่นมาเล่นเจ้านี่กันที่ลานกลางเมือง รู้จักอยู่คนหนึ่งชื่อ   อินทร์   หมอนี่เหมือนจะชอบเล่นเล่นดอกไม้เอามากเห็นมาเล่นทุกวัน ที่เมืองนี้กลุ่มที่ปกครองเมืองคือพวกนักบวช เค้านับถือศาสนาเอิร์ธกัน  แถมคงนับถือกันมานาน ไม่เชื่อดูปีศักราชเลย

ตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ต่างประเทศ แต่พออยู่นานๆไปเริ่มเข้าใจแล้วว่านี่มันไม่ใช่โลกที่ผมเคยอยู่ ไม่รู้ว่านี่มันคืออนาคตของโลกในอีกหลายพันปี หรือเป็นดาวอีกดวงในอวกาศ หรือโลกคู่ขนานแบบหนังวิทยาศาสตร์ แต่ช่างเหอะอย่างน้อยตอนนี้ผมก็ไม่ป่วยแค่คิดถึงบ้านเท่านั้นเอง คงต้องมีซักวันแหละที่ผมจะได้กลับบ้าน

วันนี้ในที่ประชุมแจ้งมาว่ามีการจัดสอบในวันพรุ่งนี้  พรุ่งนี้คงเหนื่อยแน่เลย ไม่สิ เหนื่อยยาวจนกว่าจะจบฤดุการสอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น